วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ปาฎิหารย์ที่รอคอย

บางที คนเรา ก็ มักจะเพ้อฝัน ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในห้วงของเวลาแห่งความเป็นจริงก็ตาม แต่สุดท้ายแล้ว ความเป็นจริงนั้นก็มักจะฉุดรั้งตัวเราเอง ออกมาจาก ความฝันที่สวยงามนั้น
หลายคน คิดว่า ทำไม ความจริง ถึงได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ เรา ยอมรับไม่ได้
แต่ นั่น มันก็ คือ ตัวเรา มันก็คือ สิ่งที่เป็นจริง ถึง จะหนี ก็ หนีไม่พ้น เรา จะทำยัีงไง ล่ะ ที่จะอยู่กับความเป็นจริงได้ อย่างมีความสุข
การยอมรับ การเปิดใจ คือ สิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะ อยู่ในโลกแห่งความจริงได้ อย่างมีความสุข
แต่ก็ยังอีกหลายคน ที่ ยอม แม้ จะ ฝัน ต่อไป เรื่อยๆ เพียงเพื่อ "ความสุข" เล็กๆนั้น ก็ตาม


วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"อารมณ์"

เคยรู้สึกไหมว่า "อยากอยู่คนเดียว"
อยากไปไหนไกลๆ
ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วไม่กลับมาอีกเลย
แต่สุดท้ายก็ทำมันไม่ได้สักที
รู้สึกอ้างว้าง เบื่อหน่ายกับการมีชีวิตอยู่ไปวันๆ
ไม่อยากจะรับรู้ ไม่อยากจะติดต่อใครเลยทั้งสิ้น
ทิ้ง ทิ้ง ทุกสิ่งที่ยึดติดอยู่ให้หมดไป
แล้วถ้าผมทำมันได้จริงๆ
อนาคตมันจะเป็นยังไง
สุดท้ายก็กลับมานั่งคิดทบทวนเรื่องราว
เรื่องราวต่างๆที่ผ่านพ้นมา
จะทำไปเพื่ออะไร
คำถามเกิดขึ้นมาในใจหลายสิ่ง
มีหลายอย่างที่จะต้องทำ
ถึงแม้ว่ามันจะยาก และเหนื่อยสักเท่าไร
ก็ต้องสู้และข้ามมันไปให้ได้
แต่...ก็กลับมารู้สึกเหมือนเดิม
อยากไปไหนสักแห่งเหลือเกิน
ตอนนี้ทำได้แค่...รอ...
รอ..ให้วันนั้นมาถึง
วันที่เราต้องออกเดินทางเพียงลำพัง
โดยที่ไม่มีใครมาเดินข้างๆ...ผม
แล้วก็จะ....(หาย)ไป......... 

"เวลา"

.....ปัจจุบัน...
อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ถ้าเลือกได้จะเลือกอยู่กับสิ่งไหน...มีบางคนเลือกที่จะอยู่กับ อดีต อดีต ที่แสนจะอบอุ่น หวานชื่น มีแต่ความสุข จะมีใครบ้างล่ะสักกี่คนที่คิดถึงเรื่องอดีตที่แสนเศร้า ทว่าจึงทำให้ถูกบางคนกล่าวหาว่า เป็นพวกจมอยู่กับอดีต ผิดไหม ถ้าได้ทำอะไรแล้วมีความสุข ความสุขของตัวเราเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใคร ถึงจะยังอยู่กับอดีต แต่เรา ก็ใช้อากาศแห่งปัจจุบันกาลหายใจ ยังยืนได้ด้วยตัวเอง ใช่ไหม ผิดไหม..?ถ้าจะเลือกอยู่กับอดีต
...บางคนก็มีความฝัน ความหวัง และจินตนาการเกินใครๆ อนาคต ทำให้เราเห็นมโนภาพแห่ง ความหวังของเรา ความหวัง ความฝันที่ยิ่งใหญ่ มีความสุขทุกครั้งที่ได้โบยบินไปกับความฝัน ที่เราสร้างมันขึ้นมา ไม่มีใครหรอกที่จะวาดภาพของความหวังและความฝันเป็นภาพของความเลวร้าย ไม่มี..?ถึงแม้ว่าจะหวังแล้วไม่สมดังหวัง แต่เราก็หวังใหม่อีกครั้ง จะกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีใครห้ามเราเลย ดีไหม..?ที่จะเลือกอยู่กับอนาคต ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มี "พรุ่งนี้" สักวันเดียว
...และก็มีหลายต่อหลายคนที่เลือกจะอยู่กับ ปัจจุบัน เพราะว่ามันคือ ความจริง มีความสุขไหม กับปัจจุบัน รับได้ไหม มีใครเคยถามตัวเองไหม แล้วที่อยู่ทุกวันนี้ในปัจจุบันเพราะอะไร อยู่เพื่ออะไร ถ้าไม่เพื่อ "อนาคต" และไม่อยากเป็นเหมือน"อดีต"ที่ผ่านมา
...อดีต เป็น บทเรียนแห่งปัจจุบัน
...ปัจจุบัน เป็น สิ่งนำทางอนาคต
...อนาคต เป็น ความฝันของ ปัจจุบัน
คิดถึงอดีต ใน วัยเยาว์ มีความสุขไหม มีความฝันกับอนาคต ที่สร้างไว้ มีความสุขไหม แล้วต้องทนทุกข์อยู่กับปัจจุบัน มีความสุขไหม
...อดีต เท่ากับ ความสุข
...อนาต เท่ากับ ความสุข
...ปัจจุบัน เท่ากับ ความทุกข์..?
ทำอะไรแล้วมีความสุข จะเลือกทำไหม ?
ถ้าให้เลือกว่าต้องการจะอยู่กับสิ่งไหน ผมเลือกที่จะเรียนรู้แล้วใช้ประโยชน์จากทั้งสามสิ่งนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าไม่มีทั้งสามสิ่ง ก็ไม่มีเรา และเพื่อ ค้นหาความสุขที่พอเพียง อย่างแท้จริง แค่พอเพียงและเพียงพอ ก็มีความสุขแล้ว
อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต เป็นคุณ ถ้าเลือกได้จะอยู่กับสิ่งไหน..?



วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"คนหนึ่ง ตอน 2."


๒.
"ปรี๊ดดด ปรี๊ดดดด" เสัยง แตรรถประจำทาง ทุกสาย ดัง สอดเสียง ประสาน กัน เป็นเหมือน วงเครื่องดนตรี วงใหญ่ ในวังวนของการจราจร ที่ติดขัดในเมืองหลวง 
ต่อ ออกมาคอยรถเมล์ สายประจำ เพือที่จะไป มหาวิทยาลัย ในมือ ก็ ยัง มีหมูทอด แสนอร่อย ของ แม่ อยู่ ปากก็ เคี้ยว สายตาก็ ยังแลรถไปพราง
รถเมย์สาร 48 เดินทางมาตรง เวลา อย่างไม่บิดผลิ้ว ณ เวลา 6.30 น. ต่อ ก็ ขึ้น รถเจ้าประจำไปทันใด 
ต่อ นั่ง เพลิดเพลินกับ ทรรศนีถาพ ของ สองข้างทาง เหมือน ตกอยู่ในห้วงของมนต์ตราแห่ง ธรรมชาติ สายลม พัดพลิ้ว ผ่านใบหน้า ที่ คมขำ ของเด็กหนุ่มอายุย่าง 21 ไม่ถึง ชั่วโมง ก็ ถึง ที่ หมาย
ต่อ เดินผ่าน ลัดเลาะ ถนนสาย วัฒนธรรม แห่ง เกาะรัตนโกสินธิ์  ไม่กี่ อึดใจ ก็ ถึง ท่าช้าง ต่อ แวะ หา ของกิน ให้ อิ่มท้อง อีกครา กับ มื้อเช้าที่ แสน จะ หิวโหย ถึงแม้จะได้ หมูทอด ของแม่ ไป แล้วก็ ตาม
"เอิ๊กกกกกก" เสียง เลอ ของเด็กหนุ่ม ดังออกมา เบาๆ ในระหว่าง ทางเดิน เข้่าประตู มหาวิทยาลัย

"ต่อ ต่อ ไอ้ ต่อ  นี่ๆ ทางนี้ ทางนี้ มา มา มา เร็ว ๆ" เด็กหนุ่ม หันไป มองเพื่อน และ มุ่งหน้าไป หาเพื่อนด้วยรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ ทันที ที่ สิ้นเสียง ของเพื่อน ร่วมคณะ

คน "หนึ่ง"

๑.
ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ณ เวลา 6 นาฬิกา ของเช้าวันจันทร์ ที่เร่งรีบของมหานครกรุงเทพ แสงแดดสีทองส่องทอประกายมาที่ร่างของ หนุ่มน้อยคนนึง ที่ กำลัง หลับอยู่ในภวังค์ของความฝัน อันคาดเดาไมได้ 
ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ เสียงของนาฬิกาก้ดังขึ้นทุกทีๆ เจ้านาฬิกาปลุก ทำงานอย่างขมักเขม้นใน หน้าที่ ของมันเอง สุดท้ายเด็กหนุ่ม ก้ต้องแพ้พ่ายให้กลับ เสียงอัน กวนโสตประสาท ของนาฬิกาปลุก
เด็กหนุ่ม นั่ง ละเมอ ต่ออยู่บนเตียง ใช้สองมืออันบอบบางขยี้ที่ตาทั้งสองข้าง ส่วนปากเจ้าเอย ก็ หาว อย่างไม่เป็นท่า เสียงของกระทะทำกลับข้าวจากห้องครัว ดังแผ่วๆมาจากด้านล่าง พร้อม กับเสียง ของผู้เป็นแม่ว่า " ไอ้ต่อ เมื่อไร มึงจะตื่นสักที สายแล้วนะ"
ไม่ทันสิ้นเสียงของแม่ เด็กหนุ่ม ก็ ตะลีตะลาน กุลีกุจอ ทำทุกอย่าง อย่างรวดเร็วเหมือนแปลงร่าง เสียงดังโครมคราม เผื่อให้ทันเวลาที่ล่วงเลยมานาน 
"แม่ ต่อไป เรียน แล้วนะคร้าบบบบบบบบบบ"  เด้กหนุ่มพุด พลางเอามือคว้าหมูทอดในจานบนโต๊ะกลับข้าว อีกมือ เข้าโอบผู้เป็นแม่อย่างน่ารัก ไม่ถึง นาที เจ้าตัวก็ วิ่งแจ้นออกไปนอกบ้านทันที ก่อนที่แม่จะพุดขึ้นว่า
"ไอ้ ต่ออออออออออออออออออออ"